หนึ่งในปัญหาที่ผู้หญิงในวัยผู้ใหญ่จำนวนมากต้องเจอ ก็คือ “ปัสสาวะเล็ด” ซึ่งเป็นสภาวะที่ร่างกายไม่สามารถอั้นปัสสาวะไว้ได้ ทางแก้ของหลาย ๆ คนจึงเป็นการสวมใส่ผ้าอ้อมหรือแผ่นซึมซับ ที่ก็คงสวมใส่ไม่สบายตัวนัก เพราะฉะนั้นจะดีกว่าไหมถ้ากางเกงในที่เราใส่อยู่ทุกวันสามารถเก็บปัสสาวะได้แบบเนียน ๆ

    สื่อต่างประเทศเปิดเผย จูดิธ บัลคาซาร์ (Judith Balcazar) เป็นหนึ่งในผู้หญิงหลายล้านคนในประเทศอังกฤษที่ประสบปัญหาดังกล่าว แต่สิ่งที่ทำให้เธอต่างจากคนอื่น ๆ ที่กำลังประสบปัญหาเดียวกันคือการที่เธอเอาความลำบากของตัวเองมาสร้างเป็นธุรกิจ “กางเกงในเก็บฉี่” สำหรับผู้หญิง

     จากความอับอาย สู่การสร้างแบรนด์ของตัวเอง

     ไอเดียการสร้างกางเกงในเก็บฉี่ของบัลคาซาร์ เริ่มต้นจากประสบการณ์ตรงของเธอเอง บัลคาซาร์เคยเข้ารับการผ่าตัดนิ่วออกจากกระเพาะปัสสาวะ บวกกับวัยที่ล่วงเลยมา 60 กว่าปี ทำให้บัลคาซาร์มักจะมีอาการอั้นฉี่ไม่อยู่ หรือฉี่ออกมาเองแบบไม่รู้ตัวเวลาจามหรือหัวเราะ การใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่อาจจะช่วยให้เธอไม่ฉี่ราดในที่สาธารณะได้ก็จริง แต่ก็มาพร้อมปัญหาความเทอะทะไม่สบายตัวขณะใส่ ความเขินอายเวลาต้องเลือกซื้อผ้าอ้อมในห้างสรรพสินค้า หรือเวลาต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดรวม

     บัลคาซาร์บอก “ฉันแค่อยากได้อะไรที่มันหน้าตาเหมือนกางเกงในทั่วไป เพื่อที่ฉันจะได้เปลี่ยนชุดที่ยิมแล้วไม่ต้องระแวงสายตาของคนอื่นน่ะ”

    ความอายนี้เองที่เป็นเชื้อไฟจุดไอเดียให้บัลคาซาร์คิดผลิตกางเกงในที่สามารถซึมซับฉี่ได้ หลังจากที่เธอพูดคุยและแชร์ไอเดียกับ แอนน์ เดวิดสัน (Anne Davidson) เพื่อนรักที่สนิทกันมากว่า 25 ปี ทั้งสองคนก็ตัดสินใจเปิดธุรกิจร่วมกัน กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Giggle Knickers แบรนด์กางเกงในสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาอั้นฉี่ไม่ได้เหมือนกับบัลคาซาร์

     กางเกงในแบรนด์ Giggle Knickers ที่มีราคา 12.99-14.99 ปอนด์ (ราว 500-600 บาท) ภาพ: Giggle Knickers กางเกงในเก็บฉี่ที่ใช้งานได้จริง

     ถ้าได้แต่คิดแต่ไม่ลงมือทำก็ไม่มีวันสำเร็จ ดังนั้นขั้นตอนถัดไปของการสร้างธุรกิจให้เป็นจริงคือการออกแบบตัวผลิตภัณฑ์ มีความท้าทายคือการหาวัสดุผ้าที่ทั้งซึมซับน้ำได้ดีและแห้งไว โชคดีที่บัลคาซาร์เคยเป็นแฟชั่นไดเรคเตอร์มาก่อน ทำให้เธอพอจะมีความรู้เรื่องผ้าอยู่บ้าง สองคุณป้าเพื่อนรักเริ่มทำการทดสอบผ้าประเภทต่าง ๆ ในห้องครัวของบัลคาซาร์ โดยใช้วิธีใส่น้ำลงไปในขวดยาหยอดตา แล้วหยดน้ำลงบนผ้าตัวอย่างจำนวนกว่า 80 ผืน เพื่อทดสอบการซึมซับ จากนั้นก็ลองนำตัวอย่างไปเย็บติดกับกางเกง แล้วนำมาลองซักซ้ำ ๆ เพื่อเช็คอายุการใช้งาน

    หลังทดลองและออกแบบอยู่หลายครั้ง บัลคาซาร์และเดวิดสันก็ได้ผลิตภัณฑ์กางเกงในทำจากผ้าฝ้าย และมีการใช้ผ้า 4 แบบเย็บซ้อนกันบริเวณเป้ากางเกงเพื่อซึมซับความชื้น โดยทั้งสองโฆษณาว่ากางเกงในแบรนด์ Giggle Knickers ของพวกเธอสามารถซึมซับน้ำได้ดี แถมยังแห้งไว และไม่ส่งกลิ่นอีกด้วย

    ช่วงแรกของการทำธุรกิจ สองสาว (สูงวัย) เพื่อนซี้ หาเงินทุนจากเว็บไซต์ระดมทุน Kickstarter พร้อมกับการไปออกรายการ Dragon’s Den รายการทีวีที่นักธุรกิจหน้าใหม่สามารถนำผลิตภัณฑ์ของตัวเองไปขอเงินลงทุนจากนักธุรกิจรายใหญ่ของอังกฤษได้ แม้จะถูกเหล่านักลงทุนในรายการปฏิเสธ แถมผลิตภัณฑ์กางเกงในเก็บฉี่ก็ไม่ได้ออกทีวีเลยแม้แต่นิด แต่ธุรกิจ Giggle Knickers ของพวกเธอก็ดำเนินไปได้สวย และยังได้ทุนเงินกู้จากรัฐบาลเป็นเงิน 25,000 ปอนด์ (ประมาณ 980,000 บาท)

    จุดพีคสุดของธุรกิจ Giggle Knickers เกิดขึ้นหลังจากสำนักข่าว BBC ยกให้บัลคาซาร์อยู่ในโผ "BBC 100 Women List 2018" หรือรายชื่อผู้หญิง 100 คน ที่สร้างแรงบันดาลใจจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งหลังจากชื่อของเธอปรากฏอยู่ในลิสต์ สินค้าของบัลคาซาร์และเดวิดสันก็ขายดีขึ้นทันตาเห็น 

    จนสามารถขายกางเกงในได้ถึง 3,000 ชิ้นในหนึ่งสัปดาห์ ทำรายได้ไปราว 70,000 ปอนด์ (ประมาณ 2,700,000 บาท) ในปี 2018 และในตอนนี้ พวกเธอก็มีแผนจะออกแบบกางเกงในเก็บฉี่สำหรับผู้ชาย เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าแล้วด้วย

    “ยอดขายของพวกเราโตขึ้นเร็วมาก จนฉันคิดว่าเราคงจะเสียดายแน่ ๆ ถ้าเราต้องแบ่งรายได้จากธุรกิจไป 20-40%” (ในกรณีที่พวกเธอได้เงินลงทุนจากรายการ Dragon’s Den)

     ฮีโร่ด้านสิทธิสตรีและสิ่งแวดล้อม

     นอกจากผลิตภัณฑ์กางเกงในเก็บฉี่ของบัลคาซาร์จะสามารถช่วยเหลือผู้หญิงที่มีปัญหาอั้นฉี่ไม่ได้แล้ว ยังมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากผ้าอ้อมมีส่วนประกอบหลักเป็นพอลีเมอร์สังเคราะห์ที่ใช้เวลากว่า 500 ปี ถึงจะย่อยสลาย อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ใช้ได้แค่ครั้งเดียวก็ต้องทิ้ง ทำให้ผ้าอ้อมส่วนมากมักจะมีจุดจบบนกองขยะ โดยเฉพาะในยุคที่ประเทศอังกฤษก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ขยะที่มาจากผ้าอ้อมผู้ใหญ่ก็ยิ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

    ด้วยเหตุนี้ บัลคาซาร์จึงตั้งใจออกแบบให้กางเกงใน Giggle Knickers เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถซักและนำมาใช้ใหม่ได้ เพื่อลดจำนวนขยะผ้าอ้อมและลดจำนวนพลาสติกที่อาจปนเปื้อนธรรมชาติ

    นอกจากนี้ บัลคาซาร์และเดวิดสันยังหักรายได้บางส่วนจากการขายกางเกงใน เพื่อบริจาคให้มูลนิธิ Free A Girl เพื่อช่วยผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ในประเทศอินเดียอีกด้วย

    ถึงแม้ธุรกิจของทั้งคู่จะเพิ่งเริ่มต้นได้ไม่กี่ปี แต่การสร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์แบบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นในแง่การแก้ไขปัญหาความไม่สะดวกสบายในชีวิตประจำวัน (ที่เอาเข้าจริงแล้วไม่ได้มีแต่ผู้หญิงสูงวัยที่เจอปัญหาฉี่เล็ดเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงในวัย 20 ปีขึ้นไปอีกด้วย) การคำนึงถึงปัญหาของสังคมผู้สูงอายุ และการคิดถึงสิ่งแวดล้อม ก็ทำให้ธุรกิจกางเกงในเก็บฉี่ Giggle Knickers น่าจะไปได้อีกไกลทีเดียว

ที่มา:thepeopl